Marie - The Aristocats 3

ประเทศเดนมาร์ก

ประเทศเดนมาร์ก


เดนมาร์ก (History of Denmark) ประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรเดนมาร์กมีจุดเริ่มต้นเมื่อย้อนกลับไป 12,000 ปีก่อน ในช่วงการสิ้นสุดยุคน้ำแข็งช่วงสุดท้าย ด้วยจากหลักฐานการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ เรื่องราวของชาวเดนส์ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในเอกสารครั้งแรกในช่วงปีค.ศ. 500 (พ.ศ. 1043) ซึ่งเอกสารเหล่านี้รวมทั้งงานเขียนของจอร์ดาเนสกับโปรโคไพอัส ด้วยการนับถือศาสนาคริสต์ของชาวเดนส์ราวค.ศ. 960 (พ.ศ. 1503) เป็นที่ชัดเจนว่ามีการสถาปนาระบอบกษัตริย์ในสแกนดิเนเวียที่ซึ่งปกครองในดินแดนที่เป็นประเทศเดนมาร์กในปัจจุบัน สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก พระประมุของค์ปัจจุบันของเดนมาร์กทรงสืบราชสันตติวงศ์จากกษัตริย์ชาวไวกิงซึ่งก็คือ พระเจ้ากอร์ม เดอะ โอลด์และพระเจ้าฮารัลด์ บลูทูธ พระมหากษัตริย์พระองค์แรกๆของเดนมาร์ก ถือว่าราชาธิปไตยแห่งเดนมาร์กนั้นมีอายุเก่าแก่และยาวนานที่สุดในยุโรป
ประวัติศาสตร์เดนมาร์กได้รับอิทธิพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเหนือกับทะเลบอลติก ซึ่งหมายความว่าประเทศได้ตั้งอยู่ระหว่างสวีเดนกับเยอรมนี และเพราะฉะนั้นประเทศจึงอยู่ศูนย์กลางอิทธิพลเหนือทะเลบอลติกหรือที่เรียกว่า "Dominium maris baltici" (จักรวรรดิทะเลบอลติก) เดนมาร์กมีข้อพิพาทกับสวีเดนมาเป็นระยะเวลานานในเรื่องการเข้าควบคุมเหนือสเคนลันด์ (ดินแดนทางตอนใต้ของสวีเดน)ในสงครามสเคนเนียน (Scanian War) และกรณีพิพาทในการครอบครองนอร์เวย์ และมีข้อพิพาทกับสันนิบาตฮันเซียติกในการครอบครองดัชชีชเลสวิกและโฮลชไตน์
ในที่สุดเดนมาร์กได้สูญเสียดินแดนพิพาทเหล่านี้ทั้งหมดและยุติบทบาทการอ้างสิทธิหลังจากสวีเดนผนวกสเคนลันด์และรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ไปเข้าร่วมกับจักรวรรดิเยอรมัน หลังจากการให้เอกราชในท้ายสุดแก่นอร์เวย์ในปีพ.ศ. 2357 (ค.ศ. 1814) เดนมาร์กได้เข้าครอบครองอาณานิคมของนอร์เวย์ตั้งแต่โบราณซึ่งได้แก่ หมู่เกาะแฟโรกรีนแลนด์ และไอซ์แลนด์ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไอซ์แลนด์ได้รับเอกราช กรีนแลนด์และแฟโรกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเดนมาร์ก และรัฐชเลสวิกเหนือได้รวมเข้ากับเดนมาร์กอีกครั้งจากผลการลงประชามติค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2เดนมาร์กถูกยึดครองโดยนาซีเยอรมนีและได้รับการปลดปล่อยในปีค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) หลังจากนั้นเดนมาร์กได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การ
สถานที่ท่องเที่ยวเดนมาร์ก

shutterstock_162780104
สวนสนุก Tivoli Gardens เป็นสวนสนุกที่เก่าแก่มากที่สุด เป็นอันดับ 2 ของโลก อายุ 173 ปีเอ้งงงง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1843 ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนชั้นเยี่ยมสำหรับครอบครัว โดยรองรับนักท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านคนต่อปีค่ะ การเดินทางก็แสนจะง้ายง่ายยยค่ะ สามารถเดินหรือขี่จักรยานมาได้จากโรงแรมในตัวเมือง สถานีรถไฟเซ็นทรัลนั้นตั้งอยู่ใกล้ๆ มีที่จอดรถให้บริการในถนนในยามค่ำคืน ถ้าได้มาเดินเล่นรอบสวนขนาด 21 เอเคอร์ที่เชื่อมต่อกับสวนสนุก จะได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น จากแสงของหลอดไฟ 100,000 ดวงที่ประดับไว้ตามทางเดินและต้นไม้ ช่างสวยงามตระการตาเป็นที่ซู้ดดด เป็นสวนที่ตกแต่งได้สวยงาม ร่มรื่น มีต้นไม้ดอกไม้มากมายหลายชนิด มีบ่อน้ำให้ชมปลาและนกเป็ดน้ำว่ายเล่น บรรยากาศดีซะจนอาจจะลืมไปเลยว่าอยู่ในใจกลางเมืองหลวงเลยแหละ

shutterstock_112358282

ท่าเรือนูฮาวน์ Nyhavn เป็นเขตท่าเรืออันเก่าแก่ของโคเปนเฮเกน ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของตัวเมือง ตามประวัติได้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 ทรงรับสั่งให้สร้างท่าเรือใกล้ๆ ตัวเมืองหลวง เพื่อให้สะดวกง่ายต่อการขนย้ายสินค้า และใช้เป็นท่าเรือพาณิชย์สำหรับเรือจากทั่วทุกมุมโลกมาเทียบท่า ในวันอากาศดีๆ ถือเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยว สามารถเลือกทานอาหารชมบรรยากาศชิลๆ 
shutterstock_342256736
พระราชวังโรเซนเบิร์ก ป็นพระราชวังที่ตกแต่งด้วยศิลปะแบบดัตช์เรอเนสซองส์ สร้างในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่พระองค์ภาคภูมิใจ เพราะนอกจากความงามของตัวตึกภายในและภายนอกที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยวัตถุที่ล้ำค่ามากมายแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ในบริเวณชั้นใต้ดิน ใช้เป็นที่เก็บเครื่องเพชร มหามงกุฎ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของราชวงศ์เดนมาร์กอีกด้วยค่า ซึ่งในอดีตพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อจุดประสงค์ใช้ในการพำนัก พักร้อนของเชื้อพระวงศ์ในสมัยนั้น ทั้งยังเคยถูกวางเพลิงจากกองทัพอังกฤษถึง 2 ครั้งเลยนะคะ คือในปี 1794 และปี 1801เมื่อเดินออกไปด้านนอกกำแพงปราสาท จะได้พบและเพลิดเพลินกับพื้นหญ้าเขียวชอุ่มและทางเดินใต้ร่มเงา นั่นก็คือ สวนคิงส์การ์เด้น ที่อยู่รอบปราสาท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ให้ชาวโคเปนเฮเกนได้พักผ่อน ปิคนิค และทำกิจกรรมต่างๆ กันค่ะ
shutterstock_367384292
ทหารเปลี่ยนเวร ที่ Amalienborg Palaceพระราชวังอามาเลียนบอร์ก เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก ตั้งอยู่ริมน้ำทางเหนือของตัวเมืองโคเปนเฮเกนค่ะ สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 เพื่อเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 300 ปีของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก และใช้เป็นที่พำนักของเหล่าราชวงศ์ 4 ครอบครัวซึ่งบางส่วนของพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวแวะเข้าไปเที่ยวชม และยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กจัดแสดงงานศิลปะ ภาพเขียน เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับอัญมณี สิ่งประดิษฐ์อื่นๆ และเอกสารทางประวัติศาสตร์ ที่มีการเก็บรวบรวมในช่วงเวลา 400 ปีเลยทีเดียว และยังมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างพระราชวังทั้ง 4 หลัง ซึ่งว่ากันว่า เป็นรูปปั้นทรงม้าที่สวยงามที่สุดอันหนึ่งของโลกเลยทีเดียวค่าเป็นโอกาสดีมากๆ เลยนะคะที่จะได้เข้ามาชมที่ประทับของราชวงศ์ ได้เดินไปยังห้องต่างๆ ในพระราชวัง ถ้าใครโชคดีก็จะได้เห็นพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารที่เฝ้าอยู่ภายในเขตพระราชวัง แถมยังได้เห็นธงของทางสำนักพระราชวังถูกชักขึ้น เพื่อแสดงว่าพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงประทับอยู่ภายในพระราชวัง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่คึกคักมาก นักท่องเที่ยวนิยมกันเก็บภาพทหารกันอย่างสนุกสนาน นับเป็นสถานที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อได้มาเมืองนี้ค่า
shutterstock_249365917

เดินชมเมืองจักรยาน แวะช้อปปิ้งถนน Strogetสตรอยก์ (Str get) ได้ถูกตั้งเป็นชื่อเล่นของถนนคนเดินแห่งนี้ ซึ่งแปลว่า การเดินเล่น โดยใช้ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาค่ะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอยู่ ณ ในใจกลางเมือง Str get ที่นี่นับเป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในโลกเลยล่ะค่า! ครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ stergade โดยมีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตรเลยทีเดียววว แต่สำหรับนักช๊อปอย่างเราแล้ว 10 กิโลก็ไม่หวั่นค่า ถนนสตรอยก์ถูกประกาศให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ตั้งแต่ปี 1962 ค่ะ แต่ในช่วงแรก เจ้าของกิจการหลายรายไม่เห็นด้วยกับการปิดถนน เพราะเกรงจะเป็นผลเสียต่อธุรกิจ แต่ทุกวันนี้ได้ทำให้ผู้คนได้เดินอย่างสนุก และสะดวกที่นี่คึกคักไปด้วยผู้คนประมาณแสนคนต่อวันเชียวค่ะ เรียงรายไปด้วยร้านค้าที่มีคุณภาพ มีตั้งแต่สินค้าราคาถูกไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ขายสารพัดอย่างค่ะ มีร้านอาหารมากมาย แถมยังมีนักดนตรีริมทางที่มาช่วยบรรเลงเพลงให้ความบันเทิงระหว่างเดินเล่น เพลิดเพลินไม่รู้เบื่อสมชื่อจริงๆ ค่า

shutterstock_273751184
นอกจากนี้กรุงโคเปนเฮเกน ได้รับการขนานนามจากคนทั่วโลกว่าเป็นเมืองจักรยานค่าาา ประชากรเกินครึ่งใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทาง เหตุผลสำคัญคือรัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนสุขภาพแข็งแรง และลดปริมาณคาร์บอนที่สร้างมลพิษแก่สิ่งแวดล้อม จึงออกแบบผังเมือง เพื่อรองรับนักปั่นและคนเดินเท้า ให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย ปั่นๆๆๆๆ ปั่นปั้นปั่น
shutterstock_320724554-1
รูปปั้นนางเงือกน้อย The Little Mermaid ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือริมอ่าวโคเปนเฮเกนค่ะ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2456 โดย คาร์ล จาค็อบเซน บุตรชายของผู้ก่อตั้งบริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์ก ได้มีความประทับใจจากการดูบัลเล่ต์ เรื่อง The Little Mermaid ผลงานของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน เป็นอย่างมาก จึงว่าจ้างศิลปินชาวเดนมาร์กชื่อ เอ็ดวาร์ด อีริกเซน มาปั้นรูปเงือกน้อยนี้ โดยนำแบบใบหน้ามาจากนักเต้นบัลเลต์ชื่อ เอลเลน ไพรซ์ ส่วนร่างกายที่เป็นหญิงเปลือยนำแบบมาจากภรรยาของตัวเขาเองค่า 
shutterstock_316435628-1รูปปั้นเงือกน้อยนี้นั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร น้ำหนักประมาณ 175 กิโลกรัม บริเวณรอบๆ มีสวน Langelinie จะได้สัมผัสกับความผ่อนคลาย ฟังเสียงร้องของนกนางนวลและชมเรือสำราญที่จอดเทียบท่าอยู่ มีผู้คนนำมาปิคนิคกันที่สวน เพื่อพักผ่อนริมน้ำไปเพลินๆ สบายอารมณ์จริงจริ๊งงง ฮ่าๆๆและที่นี่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคนมาเที่ยว เพื่อเก็บภาพคู่กับรูปปั้น The Little Mermaid นับเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยค่า และถ้าเรามาถึงโคเปนเฮเกน
10678625_10153277648637203_3393501673398310130_n
โรงแรม D’Angleterre Hotel ก่อตั้งขึ้นในปี 1755 โดยฌอง มาร์คแชลค่ะ เป็นหนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่และหรูหราที่สุดในโคเปนเฮเกน มีความสง่างามสมบูรณ์แบบ และมีสไตล์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างดีทีเดียว จนได้รับการจัดอันดับเป็นโรงแรม 5 ดาวด้วยค่า
และเมื่อถึงเทศกาลวันคริสต์มาส โรงแรมจะมีการตกแต่งและประดับไฟอย่างสวยงาม ถือเป็นประเพณีที่สำคัญของที่นี่ค่ะ ในจะมีจัดงานปาร์ตี้คริสต์มาส ตั้งแต่ 18.00 น.ถึง 1.30 น.สามารถเพลิดเพลินกับบุฟเฟ่ต์สุดพิเศษกับอาหารมากมาย ไวน์ เบียร์ และเครื่องดื่มต่างๆ ฉลองสังสรรค์ท่ามกลางเสียงดนตรีสด เหมาะกับเทศกาลฉลองอย่างแท้จริงค่า ถ้าได้มาเมืองโคเปนในช่วงคริสต์มาส

10336691_10153277657362203_5295856643063872246_nร้านเบเกอรี่เก่าแก่ Conditiori La Glace

ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักของหวานโดยแท้เลยค่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชา กาแฟ ช็อกโกแลต และเค้ก ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในย่าน Shopping Street ถนน Skoubogade เป็นร้านเบเกอรี่เก่าแก่และมืชื่อเสียงที่สุดของโคเปนเฮเกนค่ะเล่าถึงประวัติของร้านกันนิดนึงนะคะ ร้านนี้ผ่านการตกทอดมาแล้วถึง 6 รุ่นด้วยกัน เปิดขายตั้งแต่ปี 1870 นับถึงตอนนี้อายุก็ปาเข้าไปร้อยกว่าปีแล้วค่ะ โอ้โหวววว คืออยู่มาได้ร้อยกว่าปีแล้วก็ยังขายดิบขายดี คนเต็มร้านขนาดนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ที่นี่เค้าการันตีเรื่องช็อคโกแลตแท้ ทั้งขนม และเครื่องดื่ม โดยเค้กที่ขึ้นชือของที่นี่คือ เค้กเนื้อฟู 3 ชั้น สอดแทรกด้วยครีมผลไม้สดตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างดี จะได้สัมผัสรสชาติความหอมของเนื้อเค้กที่นุ่มฟูแทบจะละลายในปาก (นึกภาพตามนะคะ 55555 ฟินนนนน) ส่วนมากจะทานกันในวันเกิดหรือในช่วงโอกาสพิเศษต่างๆ ไม่แปลกใจเลยค่ะที่เมนูนี้จะเป็นเมนูเค้กแนะนำตลอดกาล และเมื่อได้ทานกับช็อคโกแลตร้อนสุดฮิตของที่นี่แล้วล่ะก็ จะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างแน่นอนนนน!
10849870_10153277657407203_798586850726669775_n
บรรยากาศร้านอันแสนอบอุ่น พร้อมเมนูของหวานที่มีให้เลือกมากมาย ถ้ามีโอกาสไปโฮเปนเฮเกนก็ลองจัดดูสักครั้งนะคะ ไม่งั้นอาจจะถือว่าไปไม่ถึงน้าาา คิคิ ที่นี่เปิดให้บริการวันจันทร์ถึงวันเสาร์ค่า ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดปิดตามฤดูกาล วิธีมาก็ง่ายมาก ลงรถไฟใต้ดินสถานี Kongens Nytorv แล้วก็เดินเข้า Stroeget เลยค่ะ




อาหาประจำประเทศ
Danish open sandwiches
Boiled Pock 
Cold food
Cold food

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น