Marie - The Aristocats 3

ประเทศสเปน

ประเทศสเปน


ช่วงนี้ราชวงศ์ฮับส์บูร์กจากออสเตรียเข้ามามีอำนาจในราชบัลลังก์สเปนแล้วตามมาด้วยราชวงศ์บูร์บงในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18) ในทวีปยุโรป สเปนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามและความขัดแย้งทั้งในเรื่องลัทธิศาสนาและการแย่งชิงความเป็นใหญ่กันเองหลายต่อหลายครั้ง คู่สงครามที่สำคัญได้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในลักษณะนี้ทำให้สเปนสูญเสียดินแดนในครอบครองที่ในปัจจุบันคือประเทศเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และอิตาลีไป นอกจากนี้ ผลเสียจากสงครามเหล่านั้นก็ทำให้สเปนต้องตกอยู่ในสภาวะล้มละลายอีกด้วย เมื่อเวลาผ่านไป อำนาจและเกียรติภูมิของจักรวรรดิก็เสื่อมถอยลงเป็นลำดับ และเมื่อสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 19 การถูกฝรั่งเศสเข้ารุกราน การเรียกร้องเอกราชของดินแดนอาณานิคมและความพ่ายแพ้ในการทำสงครามกับสหรัฐอเมริกาก็ทำให้สเปนเสียอาณานิคมของตนไปเกือบทั้งหมด
ความไม่มั่นคงทางการเมืองที่เพิ่มความซับซ้อนและความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำสเปนไปสู่การนองเลือดในสงครามกลางเมืองซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศ สงครามสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของฝ่ายชาตินิยมที่มีนายพลฟรันซิสโก ฟรังโกเป็นผู้นำ (เผด็จการ) สูงสุด สภาพบ้านเมืองโดยทั่วไปในช่วงนี้จึงค่อนข้างสงบและมีความมั่นคง (ยกเว้นการก่อวินาศกรรมของขบวนการเรียกร้องเอกราชในแคว้นบาสก์) สเปนประกาศตนเป็นกลางตลอดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งแม้จะมีความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน่าทึ่งในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษ 1970 แต่ก็ต้องถูกโดดเดี่ยวทางวัฒนธรรมและการเมืองจากประชาคมโลก ฟรังโกปกครองประเทศในระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จนิยมจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี ค.ศ. 1975 การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยจึงเริ่มขึ้น ประเทศสเปนในช่วงเวลาปัจจุบันนี้มีพัฒนาการของการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและทันสมัย แม้จะมีความตึงเครียดหลงเหลืออยู่ก็ตาม (เช่น กับผู้อพยพชาวมุสลิมและในแคว้นบาสก์) โดยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรฐานการครองชีพเติบโตเร็วที่สุดในยุโรป การเข้าเป็นสมาชิกประชาคมยุโรป และการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
"ซาน เซบาสเตียน" (San Sebastian) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเมืองหนึ่งของประเทศสเปน โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในจังหวัดกีปุซโกอา (Gipuzkoa) ของ แคว้นบาสก์ (Basque Country) เขตปกครองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสเปนนั่นเอง  เมืองซาน เซบาสเตียน เมืองหลวงของจังหวัดกีปุซโกอา จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของแคว้นบาสก์ เป็นเมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งใต้ของทะเลกันตาเบรีย ชายฝั่งที่สวย งามทำให้เมืองนี้เป็นสถานตากอากาศชายหาดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศ

มาดริด(madrib)เมืองหลวงของประเทศและเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นสเปนที่เที่ยวยอดนิยม เป็นแหล่งพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศอีกแห่งหนึ่งของยุโรปและยังมีอาคารเก่าแก่มากมายที่มีลักษณะคล้ายปราสาทในเทพนิยาย สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปต้องไปชมมีหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์ปราโด (Prado Museum) พระราชวังแห่งมาดริด (Palacio Real-Madrid’s Royal Palace) คฤหาสน์พลาซ่า เมเยอร์ (Plaza Mayor) พิพิธภัณฑ์ศิลปะ (The Reina Sofia National Art Museum) จัตุรัสพระอาทิตย์ (Puerta del Sol) และสวนสาธารณะเรติโร (Retiro Park)

บาร์เซโลน่า (barcelona)เมืองท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งสเปนในดวงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ แหล่งอาหารชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองศิลปะชื่อดังที่ควรไปเยือนสักครั้ง เมืองนี้เต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมของศิลปินเอกอย่างเกาดี้ (Antoni Gaudí) และโดเมเนช (Luis Doménech) จนทำให้เมืองทั้งเมืองมีเอกลักษณ์สวยเด่นแตกต่างจากเมืองยุโรปเก่าอื่นๆ สถานที่เที่ยวดังๆ มีหลายแห่ง เช่น มหาวิหารซากราด้า (Sagrada Familia Cathedral) ถนนลารัมบา (LA Rambla) ตึกเก่าคาซ่ามิลา-ลาปราเดรด้า (Casa Milà-La Pedrera) กลุ่มอาคารเก่าปาร์คกูแยล์ (Parc Guell) ตึกเทพนิยายคาซ่าบัตโตล (Casa Batlló) และพิพิธภัณฑ์ปิกาสโซ่ (Museum Picasso)

เมืองกรานาด้า ตั้งอยู่ตีนเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada Mountains) ตรงบริเวณที่แม่น้ำดาร์โร (Darro) และแม่น้ำเฮนิล (Genil) มาบรรจบกัน ส่วนตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 738 เมตร จากระดับน้ำทะเล จังหวัดกรานาดาอยู่ในแคว้นปกครองตนเองอันดาลูเซียของประเทศสเปน นอกจากนี้แล้ว เมืองกรานาด้ายังเป็นที่รู้จักกันดีในสเปนเนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยกรานาดาอันทรงเกียรติ รวมทั้งชีวิตกลางคืน ซึ่งจริง ๆ แล้วกล่าวกันว่าเมืองนี้เป็นหนึ่งในสามเมืองที่ดีที่สุดสำหรับเหล่านักศึกษา (อีกสองเมืองคือซาลามังกาและซานตีอาโกเดกอมโปสเตลา)


“เซบียา” หนึ่งในจังหวัดสำคัญแห่งแคว้นอันตาลูเซียที่เรียกได้ว่าจุดเด่นของสเปนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหล้าเชอรี่ วัวกระทิง หรือระบำฟลามิงโก รวมอยู่ด้วยกันที่นี่ ด้วยภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่เหมาะสมทำให้กลุ่มคนที่ถือว่ามีอารยธรรมสูงหลายกลุ่มผลัดกันเข้ามาครอบครองเซบียาอย่างต่อเนื่องทั้งจากแอฟริกา จากโรมัน  วิสิโโกธ อาหรับจนถึงสมัยพระนางอิซซาเบลล่าที่ 1 กับพระเจ้าเฟอร์ดินานยกทัพมาตีและได้ครอบครองเซบียาในปี ค.ศ. 1448ดังนั้นสิ่งที่หลงเหลือจากที่เหล่าผู้ปกครองแต่ละยุคสมัยทิ้งไว้คือ การผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เห็นได้ทั้งจากโบราณสถาน โบราณวัตถุ และศิลปวิทยาสาขาต่าง 
หลังการค้นพบโลกใหม่ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสภายใต้การสนับสนุนของพระนางอิซซาเบลล่าที่ 1 และพระเจ้าเฟอร์ดินานการค้าขายกับโลกใหม่ทำให้เซบีย่ากลายเป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าที่ส่งไปขายในโลกใหม่ เช่น เหล้าองุ่น เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯแม้ไม่ได้ผลิตในสเปน แต่ก็ต้องส่งผ่านท่าเรือที่เซบีย่าแล้วเปลี่ยนเป็นโลหะสำคัญกลับมา ทองคำ และด้วยเหตุนี้เองพ่อค้าผู้มั่งคั่งจึงสร้างคฤหาสน์หรูและทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความมั่งคั่งมาถึงปัจจุบันเมื่อโคลัมบัส กลายเป็นบุคคลสำคัญของเซบีย่าเช่นนี้หีบศพของเขาจึงได้รับเกียรติยศอย่างสูงให้ตั้งไว้ในมหาวิหารแห่งนี้
อาหารประจำประเทศ
Paella ปาเอย่า ข้าวผัดสเปน สีเหลือง หนักเครื่องอาหารทะเล ส่วนใหญ่จะมาเป็นจาน (หรือกระทะ)ใหญ่ๆเลย ต้องกินกันสองคนขึ้นไปล่ะ

Jamon Iberico (ฮามอง อิเบอริโค) แฮมที่แพงที่สุดในโลก ที่สเปน
Jamon Iberico ฮามอน อิเบอริโค่ เป็นแฮมที่แพงที่สุดในโลก และเป็นชั้นเลิศของครับ กินสดๆดื้อ หรือกินกับชีส แกล้มเบียร์ หรือไวน์ (บางร้านก็จะร้าน น้ำมันมะกอกแบบ Extra Virgin Olive Oil มาให้หอมๆ)




Croquett โครเก๊ต (โครเก้ต์) มันบดผสมแฮม Jamon ทอดเป็นก้อนกลมๆ มักจะเสิร์ฟกับสลัด (แก้เลี่ยน)




Calamares คารามาเรส คือ ปลาหมึกชุบแป้งทอด คนสเปนชอบมาก เอะอะก็กิน ปลาหมึกทอด ขนาดทำเป็นใส้แซนวิชกินกันดื้อๆเลย (ถ้าใครชอบก็ลองสั่งดูครับ) โดยเฉพาะแซนวิชไส้ปลาหมึกชุบแป้งทอดนี่ ทางเมืองมาดริดเขาภูมิใจเสนอว่า เป็นสูตรเด็ดเฉพาะของมาดริดเลยนะครับ โดยจะเหยาะด้วยน้ำเลมอน หรือมายองเนสก็ได้

Sangria ซางเกรีย น้ำเมาผสม ระหว่าง ไวน์ วอดก้า บรั่นดี และน้ำผลไม้รสเปรี้ยว ใส่น้ำเชื่อม และผลไม้สับ หรือ เลมอน (ขอบอกว่า อย่างหนักขอรับ คอไม่แข็ง ทรุดได้อย่างรวดเร็ว)






Churros ชูโรส กับ ช็อกโกแล็ต เป็นของว่างของคนสเปน ชูโรส เหมือนปาท่องโก๋บ้านเรานี่แหละ กินจิ้ม หรือกัดคำนึงกินช็อกโกแล็ตคำนึงก็ว่ากันไป (จะบอกว่า ปาท่องโก๋ กับสังขยา บ้านเราอร่อยกว่านะครับ แม้ผมจะเป็นคนชอบช็อกโกแล็ตก็ตาม)

Tapas ทาปาส คือ กลับแกล้มดีๆนี่แหละ อาจจะมีปลาทอด ชีส ซอสครีม ถั่ว หรือ มะกอกดอง หรืออะไรก็ตามแล้วแต่เขาจะขาย (และเราจะเลือก) บางที่ก็เสิร์ฟ เป็นขนมปังหั่นแว่น โปะหน้าด้วยแฮม ชีส มาเป็นคำๆ แน่นอนว่า มันเป็น “กลับแกล้ม” ก็ต้องมีไวน์ หรือเบียร์ ไว้คู่กัน

 เป็นทาปาส (Tapas) แบบจัดเป็นคำๆ (คล้ายๆ Canape หรือ finger food)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น